วิธียื่นการชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์

เงื่อนไขรถสำหรับยื่นภาษี

รถยนต์เก่าเกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์เก่าเกิน 5 ปี ต่อภาษีออนไลน์ได้แล้ว โดยการยื่นชำระภาษีรถออนไลน์ กรมการขนส่งทางบก ได้เปิดช่องทางให้ผู้ใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ยื่นเสียภาษีประจำปี ทั้งรถใหม่ และรถเก่าที่มีอายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป หรือรถจักรยานยนต์อายุเกิน 5 ปี แต่ต้องได้รับการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) และต้องซื้อพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

สามารถดำเนินการต่อภาษีออนไลน์ได้ที่ได้ที่ : https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf

มีเงื่อนไขดังนี้

    • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) และรถจักรยานยนต์ (รย.12) ที่จดทะเบียนทุกจังหวัด
    • รถประเภท รย.1, รย.2 และ รย.3 ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปีนับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก และรถ รย. 12 ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก ต้องผ่านการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนชำระภาษี
    • รถประเภท รย.1, รย.2 และ รย.3 ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม หรือที่ไม่ต้องขอรับความเห็นชอบก่อนชำระค่าภาษีประจำปี
    • รถที่ค้างชำระค่าภาษีประจำปี เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนชำระภาษี
    • ไม่ใช่รถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (แก๊ส) ทุกชนิดเป็นเชื้อเพลิง
    • เป็นรถที่มีสถานะทางทะเบียน หรือไม่ถูกระงับทะเบียนเนื่องจากค้างชำระภาษีประจำปี ติดต่อกันครบ 3 ปี
    • ไม่ใช่รถที่ได้รับการยกเว้นค่าภาษีประจำปี
    • ไม่ใช่รถที่ถูกอายัดทะเบียน
    • ชำระภาษีประจำปีล่วงหน้าไม่เกิน 90 วัน ก่อนวันครบกำหนดชำระภาษี
    • และอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้

    เงื่อนไข พ.ร.บ. ประกอบการยื่นชำระภาษี

    ระบบชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต ผู้ยื่นชำระสามารถซื้อกรมธรรม์ได้ทั้งจากในระบบ และซื้อผ่านผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องตรงตามความจริง และข้อมูล พ.ร.บ. ที่ระบุจะถูกตรวจสอบ และเป็นหลักฐานทางกฎหมาย ถ้าระบุข้อมูลอันเป็นเท็จ ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นความจริง มีผลต่อความคุ้มครองของกรมธรรม์

    • กรณีซื้อกรมธรรม์ผ่านระบบ มีผู้ให้บริการ 2 ราย คือ บริษัทเทเวศประกันภัย จำกัด และบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด
    • กรณีซื้อกรมธรรม์จากภายนอก โดยกรอกข้อมูลบริษัทประกันภัย เลขที่กรมธรรม์ และวันสิ้นสุดอายุความคุ้มครอง (วันสิ้นอายุความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่ยื่นชำระภาษีถึงวันสิ้นอายุคุ้มครองของ พ.ร.บ.)
    • กรมการขนส่งทางบก ขอแจ้งปรับปรุงเงื่อนไขการให้บริการยื่นชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ตสำหรับรถจักรยานยนต์ (รย.12) “ยกเลิก” การให้บริการซื้อกรมธรรม์ ตามพ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ผ่านระบบตั้งแต่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป โดยผู้ยื่นชำระสามารถซื้อกรมธรรม์จากผู้ให้บริการภายนอกและนำข้อมูลมากรอกในระบบให้ถูกต้อง เพื่อประกอบการยื่นชำระภาษีรถประจำปีต่อไป สอบถามเพิ่มเติม โทร.1584

    อัตราค่าบริการ

    • ค่าจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ รายการละ 32 บาท
    • ค่าธรรมเนียมธนาคาร (กรณีชำระผ่านเคาน์เตอร์บริการ หรือหักบัญชีเงินฝาก) รายการละ 20 บาท
    • ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต) 2% และ VAT 7% ของผลรวมยอดเงินทั้งหมด

    ขั้นตอนการชำระภาษีออนไลน์

    • เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
    • ลงทะเบียนเพื่อขอรับรหัสผ่าน (สำหรับสมาชิกใหม่)
    • Log-in เข้าสู่ระบบ
    • ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ที่เมนู “ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี”
    • กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ เพื่อลงทะเบียนรถ แล้วยื่นชำระภาษี
    • กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานการเอาประกัน ตามพ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 (กรณี พ.ร.บ. ที่มีความคุ้มครองมากกว่า 3 เดือน) หรือสามารถซื้อพ.ร.บ. ได้จากระบบ
    • เลือกช่องทางการชำระเงินเพียง 1 ช่องทาง ได้แก่
      • ชำระเงินโดยหักบัญชีเงินฝาก (ต้องมีบัญชีเงินฝากและเป็นสมาชิกใช้บริการโอนเงินผ่านระบบ อินเตอร์เน็ตกับธนาคาร/สถาบันการเงิน)
      • ชำระเงินโดยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต (เป็นผู้ถือบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ VISA , Master Card) โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาและธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้ให้บริการรับตัดบัตร
      • ชำระเงินโดยพิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถแล้วนำไปชำระเงิน ณ เคาน์เตอร์ ตู้ ATM หรือ Application ของธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
    • กรณีชำระเงินยังไม่สำเร็จ/ยังไม่ได้ชำระเงิน สามารถเปลี่ยนช่องทางการชำระเงิน ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน”
    • สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบสถานะการชำระเงิน โดยคลิกที่ ปุ่มเครื่องหมายพิมพ์ จะแสดงรายละเอียดการชำระเงินเป็นราย Reference
    • กรมการขนส่งทางบก จะจัดส่งใบเสร็จรับเงินเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และสมุดกรมธรรม์ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้ผู้ชำระเงินทางไปรษณีย์ตามที่อยู่จัดส่งเอกสารที่กรอกผ่านหน้าเว็บไซต์
    • เจ้าของรถสามารถนำใบคู่มือจดทะเบียนรถไปปรับบันทึกรายการชำระภาษีได้ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ

    ระยะเวลาดำเนินการ

    กรณีที่ยื่นชำระภาษีตามขั้นตอนปกติไม่มีกรณีผิดพลาดหรือต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ใช้ระยะเวลาดำเนินการดังนี้

    • เริ่มนับจากวันที่ชำระเงินภาษีรถผ่านธนาคาร/สถาบันการเงิน สำเร็จ
    • ธนาคาร/สถาบันการเงิน จัดส่งข้อมูลการชำระภาษีและจำนวนเงินให้กรมฯ 1 วันทำการถัดไป
    • กระบวนการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูลและยอดเงินที่ชำระจากธนาคาร/สถาบันการเงิน 1-2 วันทำการ
    • กระบวนการพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน(ป้ายวงกลม) พร้อมจัดเตรียมเอกสารเพื่อนำส่งไปรษณีย์ หลังจากยืนยันความถูกต้องของข้อมูลและจำนวนเงินแล้ว 1-2 วันทำการ
    • จัดส่งเอกสารให้กับผู้ชำระภาษีตามที่กรอกในเว็บไซต์โดยไปรษณีย์ ประมาณ 2-5 วันทำการ

    ** รวมระยะเวลาตั้งแต่ชำระเงินค่าภาษีสำเร็จถึงวันที่ได้รับเอกสารจากไปรษณีย์ ไม่เกิน 5 วันทำการทั้งนี้ สามารถตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการ หมายเลข EMS หรือกรณีพบข้อผิดพลาด ได้ที่เว็บไซต์ ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” **

    ขั้นตอนขอคืนเงินค่าภาษีรถ

    เงื่อนไขการขอคืนเงินชำระภาษี

    • 1. มีการชำระเงินค่าภาษีถูกต้อง ผ่านระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต
    • 2. มีการชำระภาษีซ้ำซ้อนในปีภาษีเดียวกัน ระหว่าง ระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ตกับระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต หรือระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต กับระบบชำระภาษีรถยนต์ผ่านสำนักงานขนส่ง หรือระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต กับช่องทางชำระภาษีอื่นๆ
    • 3. ตรวจสอบการชำระภาษีซ้ำที่หน้าเว็บไซต์ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” ที่สถานะการดำเนินการ ‘พบความผิดพลาดติดต่อกรม’

    เอกสาร/หลักฐานประกอบ

    • 1. พิมพ์เอกสารการยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” ที่สถานะการดำเนินการ ‘พบความผิดพลาดติดต่อกรม’ จากนั้นสามารถพิมพ์เอกสารโดยคลิกที่ ปุ่มเครื่องหมายพิมพ์
    • 2. ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีจากกรมการขนส่งทางบกฉบับจริงเท่านั้น
    • 3. สำเนาสมุดคู่มือรถ หน้าที่ระบุผู้ถือกรรมสิทธิ์รถคนปัจจุบัน
    • 4. สำเนาบัตรประชาชนผู้ถือกรรมสิทธิ์รถ
    • 5. ใบมอบอำนาจ (กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์รถไม่ได้ดำเนินการเอง) และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ
    • 6. กรณีรถติดไฟแนนซ์ ต้องมีเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
      • สำเนาสัญญาเช่าชื้อ
      • สำเนาบัตรประชาชนผู้เช่าซื้อ
      • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการที่มีอำนาจลงนาม
      • สำเนาใบรับรองบริษัทไฟแนนซ์
      • ใบมอบอำนาจจากบริษัทไฟแนนซ์
    • 7. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับโอนเงินภาษีคืน

    สถานที่ขอคืนเงินชำระภาษี

    • 1. สอบถามเพื่อยืนยันการได้รับเงินชำระภาษีซ้ำซ้อน ที่เบอร์ 02-271-8888 ต่อ 9313
    • 2. เมื่อได้รับการยืนยันแล้วนำเอกสารหลักฐานยื่นที่ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร อาคาร 2 ชั้น 2 งานรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน หรืองานรถจักรยานยนต์
    • 3. เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมกับแจ้งกำหนดการคืนเงินให้ทราบต่อไป
    • ** ทั้งนี้ ขั้นตอนการขอคืนเงินต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ ซึ่งอาจจะทำให้ไม่ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการคืนเงินค่าภาษี ดังนั้นให้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนการชำระเงินทุกครั้ง

    ที่มา กรมขนส่งทางบก

    รู้ก่อนตัดสินใจติดตั้ง! GPS ติดมอเตอร์ไซค์ จำเป็นแค่ไหน?

    รู้ก่อนตัดสินใจติดตั้ง! GPS ติดมอเตอร์ไซค์ จำเป็นแค่ไหน?

    GPS ติดมอเตอร์ไซค์ จำเป็นมากในปัจจุบัน เพราะช่วยป้องกันการโจรกรรม ติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ และเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่…

    อ่านต่อ
    รู้ทันทุกการเคลื่อนไหว! ระบบติดตามรถยนต์ คืออะไร และทำงานยังไง?

    รู้ทันทุกการเคลื่อนไหว! ระบบติดตามรถยนต์ คืออะไร และทำงานยังไง?

    ระบบติดตามรถยนต์ ช่วยป้องกันรถหาย รู้ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ และแจ้งเตือนเหตุการณ์ผิดปกติทันที เหมาะสำหรับทั้งรถส่วนตัวและธุรกิจ…

    อ่านต่อ
    รู้ทุกการเคลื่อนไหว! GPS ติดรถส่งของ เพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุน

    รู้ทุกการเคลื่อนไหว! GPS ติดรถส่งของ เพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุน

    หากคุณกำลังมองหา gps ติดรถส่งของ ที่ทั้งปลอดภัย ประหยัด และสอดคล้องกับกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก GPSDD GPS ติดรถขนส่ง คือคำตอบที่ใช่…

    อ่านต่อ
    Message us