บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Manager : TSM) คือใคร?

บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง

(Transport Safety Manager : TSM) คือใคร?

ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดคุณสมบัติ หลักสูตร ระยะเวลาการฝึกอบรม และหน้าที่ของบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Manager : TSM) พ.ศ. 2564 และได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 และปัจจุบันมีผลใช้บังคับแล้วซึ่งประกาศดังกล่าวจะใช้บังคับกับผู้ประกอบการขนส่งประจำทางและไม่ประจำทางด้วยรถโดยสาร ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถบรรทุก และผู้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคลทุกราย

บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง เป็นบุคลากรเฉพาะด้านที่รับผิดชอบในการวางแผน และควบคุมกำกับดูแล

ความปลอดภัยในการขนส่งรวมทั้งมีแผนการจัดการและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินมีหน้าที่หลัก 5 ด้าน ได้แก่

  • การจัดการรถ
  • การจัดการผู้ขับรถ
  • การจัดการการเดินรถ
  • การจัดการการบรรทุกและการโดยสาร
  • และการบริหารจัดการการวิเคราะห์และประเมินผล

เพื่อให้การขนส่งเป็นไปด้วยความปลอดภัย และลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นจากการขนส่งทางถนนและลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นจากการขนส่งทางถนนในระยะยาวอย่างยั่งยืน

บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง
(Transport Safety Manager : TSM)

คุณสมบัติของบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง

จะต้องผ่านการฝึกอบรมและทดสอบในหลักสูตรที่มีมาตรฐาน ตามระยะเวลาที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด

หลักสูตรการอบรมบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Manager : TSM) โดยมีระยะเวลาการอบรม รวม 18 ชั่วโมง ประกอบด้วย 8 หัวข้อวิชา ได้แก่

  • ความปลอดภัยในการประกอบการขนส่ง
  • กฎหมายเกี่ยวกับการประกอบการขนส่ง
  • การบำรุงรักษารถและการตรวจความพร้อมของรถ
  • การจัดการพนักงานขับรถ
  • การวางแผนและปฏิบัติการเดินรถ
  • ความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร
  • การจัดการเหตุฉุกเฉิน
  • การวิเคราะห์และป้องกันอุบัติเหตุ

ใครบ้างที่ต้องมีบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งในองค์กร

บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งจะต้องมีในผู้ประกอบการทุกกลุ่ม แต่จะมีการบังคับใช้ในกลุ่มแรกก่อนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกอบด้วย

  • ผู้ประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถโดยสาร หมวด 1 กทม. และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง และหมวด 2 รายเดิมทุกราย
  • ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถโดยสารรายเดิมที่มีรถตั้งแต่ 51 คันขึ้นไป
  • ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถบรรทุกรายเดิมทุกรายที่มีรถขนส่งวัตถุอันตราย
  • ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถบรรทุกรายเดิมที่มีรถตั้งแต่ 101 คันขึ้นไป
  • ผู้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคลด้วยรถบรรทุกรายเดิมที่มีรถขนส่งวัตถุอันตราย ตั้งแต่ 6 คันขึ้นไป
  • ผู้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคลรายเดิมทุกรายที่มีรถตั้งแต่ 101 คันขึ้นไป
  • ผู้ขอรับ (รายใหม่) ใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทาง และไม่ประจำทาง (ผู้ขอเป็นนิติบุคคล) ทุกราย
  • ผู้ขอรับ (รายใหม่) ใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทางและส่วนบุคคลทุกรายที่มีรถตั้งแต่ 11 คันขึ้นไป


 สำหรับผู้ประกอบการขนส่งกลุ่มอื่นจะมีการบังคับใช้ ในวันที่ 1 มกราคม 2567 และวันที่ 1 มกราคม 2568 ตามลำดับ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่มีบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท

ที่มา กรมการขนส่งทางบก (dlt.go.th)

บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

แนะนำ GPS ติดรถยนต์ขนาดเล็ก คุ้มค่าและติดตั้งง่ายในไม่กี่นาที

แนะนำ GPS ติดรถยนต์ขนาดเล็ก คุ้มค่าและติดตั้งง่ายในไม่กี่นาที

GPS ติดรถยนต์ขนาดเล็ก ดีอย่างแน่นอน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้หลายด้าน สามารถใช้งานเพื่อติดตามรถของบริษัท หรือดูแลความปลอดภัย…

อ่านต่อ
ปลอดภัยไร้กังวล เครื่อง gps ติดรถยนต์ ช่วยปกป้องรถคุณได้อย่างไร?

ปลอดภัยไร้กังวล เครื่อง gps ติดรถยนต์ ช่วยปกป้องรถคุณได้อย่างไร?

ถือว่า เครื่อง gps ติดรถยนต์ คืออุปกรณ์ที่สามารถปกป้องรถของคุณได้เป็นอย่างดี ช่วยให้รถของคุณมีความปลอดภัยมากขึ้น และคุณยังมีความสบายใจ…

อ่านต่อ
เช็คลิสต์ตำแหน่ง! ติด gps รถยนต์ตรงไหน สะดวก และปลอดภัยมากที่สุด!

เช็คลิสต์ตำแหน่ง! ติด gps รถยนต์ตรงไหน สะดวก และปลอดภัยมากที่สุด!

เราควร ติด gps รถยนต์ตรงไหน ถึงจะเหมาะสมที่สุด? ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการติดตั้ง GPS พร้อมทั้งข้อควรคำนึงต่าง ๆ

อ่านต่อ
Message us